เรียนฟรีไดฟ์สำหรับเด็ก
เด็กสนุกกับการเรียนฟรีไดฟ์

6

อายุขั้นต่ำ

4

คาบเรียนทฤษฎี

3

คาบเรียนปฏิบัติภายในสระ

3

ความลึกฝึกฝนสูงสุด (เมตร)

6-8

ระยะเวลาเรียน (ชั่วโมง)

เรียนฟรีไดฟ์สำหรับเด็ก นักสำรวจน้อย (freediving Explorer)

  • หลักสูตรใหม่ล่าสุดจาก SSI ออกแบบมาสำหรับเด็ก โดยเฉพาะ เน้นความสนุกสนาน และเนื้อหาที่เข้าใจง่าย
  • เหมาะสำหรับเด็กๆ เจ้าตัวน้อย อายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป ที่สนใจอยากดำดิ่ง ลงไปใต้น้ำ โดยไม่ต้องสวมเสื้อชูชีพ ศึกษา เรียนรู้หลักการพื้นฐานที่ถูกต้อง และปลอดภัยในการฟรีไดฟ์ เมื่อเรียนจบสามารถดำน้ำตัวเปล่าได้ลึก 3 เมตร
  • เหมาะสำหรับ เด็กๆ ที่อยาก เรียนฟรีไดฟ์ รักการผจญภัย หากิจกรรมที่ท้าทายตนเอง อยากดำดิ่งลงใต้ทะเล เพื่อที่จะได้ใกล้ชิด สัตว์ทะเล ปลาการ์ตูน ดอกไม้ทะเล ปะการัง มากขึ้น 
  • หลักสูตร เรียนฟรีไดฟ์สำหรับเด็ก เรียนแบบตัวต่อตัว หรือมากสุดไม่เกิน 2 คน เพื่อที่ครูผู้สอน ดูแลได้อย่างใกล้ชิดที่สุด
  • ค่าคอร์สจากปกติ 4,900 ราคาพิเศษเหลือเพียง 4,500 บาท*
  • *รวมค่าอุปกรณ์ หน้ากาก, ฟิน, ท่อสนอคเกิ้ล ค่าสระ และค่าใบเซอร์ (Digital) เมื่อเรียนจบแล้ว
  • พิเศษ !! ถ่ายรูปใต้น้ำ และตกแต่งรูปด้วย Light room 10 รูป ++

เนื้อหา ภาคทฤษฎี และภาคปฎิบัติ

  • ทดสอบว่ายน้ำ ระยะทาง 12 เมตร 
  • ทฤษฎี ความรู้เกี่ยวกับ มหาสมุทร และระบบนิเวศน์
  • การรักษา ดูแล สิ่งแวดล้อม การลดมลภาวะ 
  • การเลือกอุปกรณ์ หน้ากาก ท่อสน็อคเกิล และฟิน
  • การเตรียมอากาศที่ถูกต้อง และการกลั้นหายใจอย่างปลอดภัย
  • การออกสำรวจ ร่วมกับ บัดดี้ ระบบบัดดี้
  • การหายใจเพื่อการฟื้นฟู (Recovery Breathing)
  • การลงสู่น้ำ อย่างปลอดภัย สองรูปแบบ (Giant Stride, Controlled Seat Entry)
  • การเคลียร์ท่อ snorkel
  • การทำ Static Apnea Attempt
  • การตีฟิน แบบ bi-fin ที่ถูกต้อง
  • Dynamic Start and Setting Neutral Buoyancy
  • เข้าใจ MDR (Mammalian Dive Reflex)
  • เทคนิคการการเคลียร์หู (Equalization) ที่ถูกต้องและปลอดภัย
  • เทคนิคการมุดน้ำ (Duck dive) และการ Streamlining

 

เด็กเรียนฟรีไดฟ์
เด็กหัดมุดน้ำ duck dive

ทำไมเด็กถึงควร หัดเรียนดำน้ำ เรียนฟรีไดฟ์ ??

ในฐานะ คุณพ่อ ลูกสาม เข้าใจดีว่า ทุกวันนี้ เด็กๆมีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิชาการ เรียนคณิต เรียนภาษา กีฬา อย่างฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ แบดมินตัน หรือ ดนตรี เปียโน กีต้าร์ ไวโอลิน เลือกกันไม่ถูกเลย ว่า ควรเรียนอะไรดี ส่วนตัวแล้ว ผมจะเลือกจากความชอบ ของลูกเป็นหลักก่อน ถ้าเด็กไม่ชอบ ก็จะไม่บังคับกัน อีกส่วน คือ เรียนแล้วได้ประโยชน์อะไร? ถ้าเป็นพวกกีฬา ผมจะสนับสนุกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง ว่ายน้ำ เตะบอล ไอซ์สเก็ต แบดมินตัน เพราะแน่นอนว่า การออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ดีต่อสุขภาพ สำหรับการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ ลูกชาย ชอบ และขอเรียนเอง ผมก็สนับสนุน เห็นว่า เป็นกีฬาอย่างหนึ่ง และได้ปลูกฝังให้เด็กรักและดูแลธรรมชาติด้วย 

เมื่อตัวเอง และลูกๆ ได้เรียนดำน้ำแบบฟรีไดฟ์แล้ว พบว่า ประโยชน์ จริงๆ มีมากกว่าแค่เรื่องสุขภาพ ความแข็งแรงเพียงอย่างเดียว หลังจาก เรียนไปได้สักพัก รู้สึกได้เลยว่า เราใจเย็นขึ้น สงบขึ้น แม้แต่ชีพจร เวลาพัก ของผม ก็ต่ำลงเหลือแค่ประมาณ 50 ครั้งต่อนาที เท่านั้น ก่อนหน้านี้ แม้แต่ตอนที่ผมฝึกซ้อมเพื่อวิ่ง Half Marathon ชีพจร เวลาพัก ก็ไม่เคยต่ำกว่า 60 เลย จากการสังเกต อาจไม่ครบถ้วนทั้งหมด ผมพอสรุปประโยชน์ของการเรียนดำน้ำ ได้ดังนี้

เหตุผล และประโยชน์ที่เด็ก จะได้จากการเรียนฟรีไดฟ์ 

  1. เด็กๆ เรียนรู้เร็ว มีความยืดหยุ่น มากกว่าผู้ใหญ่
    • จากประสบการณ์ที่เคยพบเจอมา เด็กๆเรียนดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ได้ดี และง่ายกว่าผู้ใหญ่มาก น่าจะเป็นเพราะมีความยืดหยุ่นที่ดีกว่า เด็กๆ แทบไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเคลียร์หู หรือการมุดน้ำ เลย ในขณะที่ผู้ใหญ่หลายๆคน ติดปัญหาเรื่องการเคลียร์หู และเรียนดำน้ำต่อไม่ได้
  2. เสริมสร้างสุขภาพที่ดี พัฒนากล้ามเนื้อ รวมถึงแกนกลางร่างกาย
    • ฟรีไดฟ์ นับได้ว่าเป็นกีฬาอย่างหนึ่ง ไม่ว่า การกลั้นหายใจและดำน้ำในแนวนอน (Dynamic Apnea) หรือ การดำดิ่งลงในแนวดิ่ง (Constant Weight) ต้องใช้กำลังกายค่อนข้างมาก การตีฟินที่ถูกต้อง ใช้กำลังจากสะโพก ต้นขา และแกนกลางร่างกาย การตีฟิน และ/หรือ การใช้ arm stroke เพื่อดำดิ่งลง หรือเพื่อขึ้นสู่ผิวน้ำ เป็นการออกกำลังกาย แบบมีแรงต้าน (resistance) อย่างดี เพิ่มความแข็งแรงของร่างกายและกล้ามเนื้อ
  3. เพิ่มสมาธิ เพิ่มความผ่อนคลาย เรียนรู้ได้ดีขึ้น
    • การเตรียมลมหายใจแบบ Freediver ตามลมหายใจเข้าออก นับได้ว่าการการทำสมาธิแบบหนึ่ง ทำให้จิตใจ และสมองเพิ่มความจดจ่อ ส่งผลดีต่อการเรียนรู้ด้านอื่นๆ  
  4. รู้จักการผ่อนคลายทั้งร่างกาย และจิตใจ ลดความเครียด 
    • การหายใจแบบฟรีไดฟ์ ทั้งส่วนของ Breathe-up (Relaxation Breathing และ Final Breath) และ Recovery Breath ต้องผ่อนคลาย ทั้งร่างกาย จิตใจ และการหายใจ ร่างกายที่ผ่อนคลาย จะทำให้หัวใจเต้นช้าลง ใช้ออกซิเจนน้อยลง กลั้นหายใจได้นานขึ้น การผ่อนคลายร่างกาย จิตใจ ยังช่วยลดความเครียด ทำให้เด็กรับมือกับ ความกดดันต่างๆได้ดีขึ้น
  5. เพิ่มความมั่นใจ เพิ่มทักษะในการเอาตัวรอด เมื่ออยู่ในน้ำ
    • การฝึกทักษะต่างๆในน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการมุดน้ำ การลอยตัว การทำ arm stroke ฯลฯ รวมถึงความรู้เรื่องการกู้ภัย ช่วยผู้อื่น ทำให้เด็กๆเพิ่มความมั่นใจในตนเอง รู้วิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน เมื่ออยู่ในน้ำ
  6. เข้าใจร่างกายของตนเองมากขึ้น รู้จักสังเกตร่างกายและจิตใจ
    • เด็กๆรู้จักการฟังเสียงร่างกาย สังเกตภายในร่างกายตนเอง เรารู้สึกเครียดอยู่มั้ย หัวใจเราเต้นเร็วไปหรือเปล่า การหายใจเข้าออกของเราเป็นอย่างไร เร็วไป ช้าไป ตื้นไป ลึกไป ที่สำคัญ เราเรียนรู้ที่จะสังเกต อาการอยากหายใจ (Urge to breathe) เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และไม่เพิกเฉยต่อสัญญาณที่ร่างกายต้องการจะบอก
  7. กิจกรรมนอกหลักสูตร สามารถใช้ประกอบการยื่นพอร์ทเพื่อเข้าเรียน
    • สำหรับ การสอบเข้าโรงเรียนต่างๆในปัจจุบัน นอกจากพิจารณาจากผลสอบทางวิชาการพื้นฐาน กิจกรรมนอกหลักสูตรมีความสำคัญมาก หลายๆโรงเรียนให้น้ำหนักกิจกรรมนอกหลักสูตร ไม่แพ้วิชาการเลยทีเดียว เมื่อเด็กๆ เรียนจบคอร์ส นอกจากจะได้ใบเซอร์แล้ว ยังสามารถขอให้ออกเป็นใบประกาศใช้ยื่นพอร์ทได้ด้วย
ใบประกาศ SSI Freediver
SSI Freediver digital Certificate
เด็กผู้หญิงดำน้ำอย่างสนุกสนาน
เด็กๆ ฟรีไดฟ์ อย่างผ่อนคลาย