เรียน Freediver Level 1

บทความนี้จะเล่าถึง การเรียนคอร์ส Freediver สถาบัน SSI หรือชื่อเดิม Freediving Level 1 คอร์ส Freediver ถึอว่าเป็นคอร์สที่เนื้อหาเข้มข้น และต้องมีการสอบทำทักษะต่างๆ มีการเรียนการสอนรวม 3 วัน โดย

วันแรก เรียนเนื้อหาและทฤษฏี คล้ายคอร์ส Basic Freediver ช่วงเช้า และช่วงบ่ายลงฝึกในสระ

วันที่สอง ฝึกทักษะภาคสระเพิ่มเติม ครึ่งวัน ฝึก Dynamic Turn 2 รูปแบบ ฝึก Dynamic Rescue และสอบ Requirement ของ Pool Freediver อันได้แก่ Arm only Dynamic 15 เมตร และ Dynamic Apnea 30 เมตร และฝึกซ้อม Skill ต่างๆที่ใช้สอบภาคทะเล

วันที่สาม ออกสอบภาคทะเล นักเรียนต้องทำ Requirement 4 อย่างได้แก่

  • Constant Weight (ดำลงและขึ้นสู่ผิวน้ำ น้ำหนักคงที่) 10 เมตร
  • Arm only Ascend ดำลงและขึ้นสู่ผิวน้ำ ด้วยแขนอย่างเดียว 10 เมตร
  • No Mask Ascend ดำลง ถอดหน้ากาก ขึ้นสู่ผิวน้ำ 10 เมตร
  • Deep water rescue ทดสอบช่วยคนหมดสติใต้น้ำ ความลึก 10 เมตร
ออกสอบทะเล Freediver (Freediving Level 1)

ในส่วนของการเตรียมตัวเพื่อการออกสอบภาคทะเล หรือการเรียนฟรีไดฟ์ ให้สำเร็จและสนุก หลักๆ เราควรเตรียมตัว 3 ส่วน ซึ่งถือเป็นเสาหลักของการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ อันได้แก่

การกลั้นหายใจ สำหรับการสอบฟรีไดฟ์ ดำลงลึก 10 เมตร จะใช้เวลาในการดำลงและขึ้นสู่ผิวน้ำประมาณ 30-40 วินาที ปกติถ้าเรากลั้นหายใจแบบอยู่นิ่งๆ (Static Apnea) ได้ 2 นาที เราจะกลั้นหายใจแบบขยับตัวไปด้วย (Dynamic Apnea) ได้ประมาณ ครึ่งนึงคือ 1 นาที ดังนั้นเพื่อให้เราลงได้ 10 เมตร เราควรทำ Static Apnea ให้ได้อย่างน้อย 80 วินาที หรือ 1.30 นาที ซึ่งเป็น Requirement ของการสอบ Level 1 นั่นเอง

การเคลียร์หู Equalization เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับการดำน้ำ หากเราไม่สามารถเคลียร์หูได้เลย เราจะดำลงไปได้ไม่เกิน 2-3 เมตร เท่านั้น ดังนั้นจำเป็นมากที่เราต้องฝึกซ้อมการเคลียร์หูก่อนการเรียน จากประสบการณ์การสอน นักเรียนส่วนมาก 90% จะสามารถเคลียร์หูแบบหัวตั้ง และเคลียร์หูที่ผิวน้ำได้ (Pre-Equalize) ซึ่งจะทำให้สามารถดำลงได้ลึกประมาณ 3-4 เมตร แต่นักเรียนจำนวนมากจะเคลียร์หูแบบหัวปักลง (Head First) ไม่ได้ การเคลียร์หูหัวปักลงนั้นยากกว่า และต้องใช้เวลาฝึกฝน สามาถอ่านบทความ ปัญหาการเคลียร์หู เพิ่มเติมได้

การทำตัวลู่น้ำ Streamlining และการตีฟิน ถ้าเราจัดระเบียบร่างกายได้ดี เก็บคาง เก็บแขน และตีฟินได้อย่างถูกต้องโดยใช้สะโพก เราจะเคลื่อนตัวได้มีประสิทธิภาพ และจะดำลงได้เร็วขึ้น

สำหรับการเรียนการสอน และการออกสอบภาคทะเล ของคอร์ส Freedive (Freediving Level 1) ครูขอยกตัวอย่าง เล่าเรื่องราว การเรียนการสอนจริงๆ ของน้องๆ 2 คน น้องแต๋ม และน้องหญิง คุณแม่น้องแต๋มติดต่อมา สอบถามเรื่องการเรียนการสอน คอร์ส Freediver คุณแม่เป็นห่วงน้องแต๋มมากๆ สอบถามรายละเอียดหลายครั้ง จะขอตามมาดูน้องเรียน ที่สระธรรมศาสตร์ ด้วย น่าเสียดาย ว่า ทางสระไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า เข้าได้เฉพาะนักเรียนที่มาเรียนเท่านั้น ไม่งั้น คุณแม่คงได้เห็น และภูมิใจว่า น้องแต๋มทำได้ดีแค่ไหน สำหรับผม คนเป็นพ่อลูกสาม เข้าใจดีว่า คนเป็นพ่อแม่ จะเป็นห่วง คอยดูแล ลูกๆเสมอ ไม่ว่าเค้าจะอายุเท่าไหร่แล้วก็ตาม โดยเฉพาะลูกสาว ถ้าเป็นลูกสาวผม ถึงอายุ 30 แล้ว ผมก็คงยังเป็นห่วงคอยตามรับตามส่ง ถ้าทำได้ สังคมสมัยนี้ อันตรายมีอยู่ทุกแห่ง สาวๆจำไว้นะครับ ผู้ชายที่ไว้ใจได้ คือ ผู้ชายที่ตายไปแล้ว

เราสรุปเรียน 2 วันแรกที่สระธรรมศาสตร์ รังสิต วันที่น้องๆเรียน อากาศยังเย็น ต่ำสุดประมาณ 20-21 องศา น้ำในสระต้องยะเยือกแน่นอน เพราะสระที่นี่ แทบไม่เคยโดนแดด เป็นสระในร่ม ครูต้องกำชับให้น้องๆเตรียม Wetsuit มาด้วย และก็เป็นจริงตามคาด แม้ว่าน้องๆจะเตรียม Wetsuit มาด้วย ก็ยังเรียนกันแทบไม่ไหว น้ำเย็นจริงๆ ครูก็ตัวสั่นแด้กๆ แต่ต้องทำเป็นไม่หนาว เดี๋ยวเสียฟอร์มครับ ถึงน้ำจะเย็นแค่ไหน แต่น้องๆก็ตั้งใจเรียนและทำทักษะต่างๆได้ดีมากๆ ทั้งคู่ตีฟินได้แรง และเร็ว ครูตามไม่ทัน เหนื่อยอ่ะ ลืมเล่าไปนิดว่า น้องๆ มีอุปกรณ์มาครบทุกอย่างเลย ครูอึ้งมาก เป็นครั้งแรกที่นักเรียนมีอุปกรณ์ครบทุกชิ้น ครูไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ทั้ง หน้ากาก ท่อสนอคเกิ้ล ฟิน แม้กระทั่งถุงเท้า

น้องๆ duck dive ได้ดี ลงได้เร็ว แต่ยังติดชอบมองไปที่ก้นสระ ทำให้ตัวไม่ลู่น้ำเท่าที่ควร ซึ่งเป็นปกติของคนเพิ่งหัดเรียน น้องแต๋มสามารถเคลียร์หูแบบไม่ใช้มือ (VTO, Voluntary Tube Opening) ได้ด้วย ครูยังทำไม่ได้เลย เทพจริง ส่วนน้องหญิง จัดระเบียบร่างกายได้ดี ทั้งสองสอบผ่าน Requirement ของ Pool แบบสบายๆ ทีนี้ก็เหลือแค่ออกสอบภาคทะเลเท่านั้น แต่ทะเล ไม่ง่ายเหมือนสระนะ

  

ออกสอบทะเล 

พวกเราสรุปกันว่า จะไปออกสอบทะเลกันที่ บางเสร่ สัตหีบ สำหรับการออกสอบใกล้ๆกรุงเทพ ส่วนมาก เราจะไปสอบกันที่ แสมสาร บางเสร่ หรือ หินเพลิง (ระยอง) ครูเลือกไปบางเสร่ ไปดำ เกาะริ้น ลอมฟาง เพราะเราไปกับ เรือใหญ่ เรือ Scuba ชื่อ MV sunray ของครูบอล แน่นอนว่าเรือใหญ่ ปลอดภัยกว่า และยังมีห้องน้ำห้องท่า ให้เข้าทำธุระ เปลี่ยนชุด ถ้าเลือกไปแสมสาร ส่วนมากจะเป็นเรือเล็ก ไม่มีห้องน้ำ และไม่มีอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือยามฉุกเฉิน แสมสารยังเอาแน่เอานอน ไม่ค่อยได้ บางครั้งกระแสน้ำแรงมาก ค่อนข้างอันตราย 

ทางเรือนัดพวกเราที่ลานจอดรถ วัดบางเสร่คงคามราม แต่วันที่ออกเรือที่วัดมีงาน จึงย้ายจุดนัดพบ เป็น ลานจอดรถของร้าน หมึกสดซาชิมิ แทน ครูไปถึงที่วัด 7.30 ออกจากบ้านประมาณ ตี 5 ถึงจุดนัดหมายก่อนเวลาประมาณ 30 นาที พอใกล้เวลานัดหมาย ครูแอม ซึ่งผมชวนมาออกทริปด้วยกัน เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยนักเรียน และช่วยถ่ายรูป เพราะตัวครูเองจะต้องคอยดูความปลอดภัยนักเรียนเป็นหลัก คงถ่ายรูปไม่ถนัดนัก

เราชึ้นเรือกัน และเดินทางไปจุดดำน้ำแรก เกาะริ้น ฝั่งตะวันตก เกาะริ้นอยู่ไกลจากฝั่ง ใช้เวลาเดินทาง นานพอสมควร น้องหญิง หน้าตาดูกังวล เพราะยังไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเคลียร์หูได้ ครูจึงทบทวนวิธีการควบคุมเพดานอ่อน ให้อยู่ตำแหน่งเป็นกลาง (Neutral Soft Palete) ซึ่งสำคัญมากในการเคลียร์หูแบบเอาหัวลง (Head first)

ครูคอยดูแลความปลอดภัย
นักเรียนสอบทักษะ Deepwater Rescue

ที่จุดดำน้ำแรก เกาะริ้นฝั่งตะวันตก กระแสน้ำค่อนข้างแรง พัดบุย ของเราเข้าที่ตื้นตลอด เลยตัองดันบุยออกไปแล้ว ปล่อย bottom weight ให้ลงถึงพื้นทราย เพื่อยึดให้บุยอยู่กับที่ เราเริ่มกันด้วยการ Warm up ด้วย Free Immersion แบบเอาหัวลง เพื่อทดสอบว่ามีปัญหาการเคลียร์หูหรือไม่ พอน้องทั้งสอง ทำได้ เราก้อเริ่มทำการสอบกัน โดยเริ่มจาก Constant Weight, Arm only Ascend, No mask Ascend และจบด้วยทักษะที่ยากที่สุดคือ Deep water rescue ซึ่งตอนทำ Resue กระแสน้ำแรงขึ้น ครูต้องคอยจับเชือกไว้ ไม่ให้กระแสน้ำพัดเราไกลออกจากบุย เพื่อความปลอดภัย ครูจำขึ้นใจ เสมอว่า คนเป็นครูต้องห้ามให้นักเรียนคลาดสายตา นักเรียนดำครูต้องดำลงไปประกบด้วย และครูต้องอยู่ใกล้นักเรียนในระยะเอื้อมมือถึง ทั้งน้องแต๋ม และน้องหญิงทำได้ดีมากๆทั้งคู่ ตอนที่น้องๆสอบผ่านทุกทักษะ น้องๆดีใจมาก อยากบอกว่า ครูก็ดีใจไม่แพ้กันเลย

FUNDIVE เกาะลอมฟาง และเกาะริ้น

หลังจากสอบเสร็จ เราก็ขึ้นเรือ มาพักผ่อน ทานข้าวกัน น้องๆทั้งสองไม่มีสีหน้ากังวลอีกแล้ว ยิ้มร่า ปกติครูจะพยายามจัดให้ทำการสอบก่อน เพราะเหตุผล 2 อย่าง อย่างแรก คือ นักเรียนแรงยังดี ถ้าดำเล่นสนุกก่อน แล้วค่อยสอบ อาจหมดแรงก่อนได้ อย่างที่สอง คือ พอสอบเสร็จ หมดความกังวล แล้ว Fun dive จะได้ Fun จริงๆ ทั้งสอง ดำน้ำกันอย่างสนุกสนาน ถ่ายรูปเล่น กัน ฝึกม้วนตัว ดูปะการังแข็ง ฟองน้ำ ฝูงปลาข้างเหลือง ปลาปักเป้า ปลาผีเสื้อแปดขีด แม้กระแสน้ำ และคลื่นจะค่อนข้างแรง โดยเฉพาะจุดสุดท้าย คลื่นและกระแสแรงที่สุด ครูแอมอยากให้น้องได้ถ่ายรูปกับกัลปังหา แต่สู้กระแสน้ำไม่ไหว สุดท้ายเราต้องปล่อยตัวลอยอ้อมแหลมข้ามมาดำเล่นในที่ตื้นหน้าหาดอีกฝั่งหนึ่ง หลังจากดำน้ำกันจดหมดเรี่ยวแรง เราก็กลับขึ้นเรือ เดินทางกลับฝั่งกัน

นักเรียนขึ้นสู่ผิวน้ำ

เราใช้เวลาเดินทางกลับฝั่ง พอๆกับขามา ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างเดินทางกลับ น้องแต๋ม ง่วงนอน เลยขอนอนตัก น้องหญิง ดีจริง การมีเพื่อนสนิท ที่รู้ใจ กันขนาดนี้ ทั้งคู่จะไปตะลุยเที่ยวฟิลิปปินส์กันสองคน ช่วยดูแลกันและกัน เที่ยวให้สนุก ปลอดภัยนะครับ ช่วงเดินทางกลับ พระอาทิตย์มาส่งเรา กำลังจะลับขอบฟ้า ที่เหลี่ยมเขา ธรรมชาติช่วงสวยงามจริงๆ เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่า การเดินทาง และการผจญภัยบทหนึ่งกำลังจะจบลงแล้ว การเดินทางและผจญภัย ครั้งต่อไป จะเป็นอย่างไรนะ ครูตื่นเต้นมากๆ ที่เดือนเมษานี้ ครูและครอบครัว จะไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์กัน ที่นี่เป็นที่แสนพิเศษ ที่ครูรักที่สุด สมัยหนุ่มๆ ครูจะหาโอกาสไปทุกปี ไปรวมๆทั้งหมด 9 รอบแล้ว และก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจเสมอ แต่หลังๆมีครอบครัว ภาระกิจมากมาย เลยต้องห่างหายไปบ้าง นับวันรอจะได้พบกันอีกครั้งนะ หมู่เกาะสุรินทร์

อาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา ขาเดินทางกลับฝั่งจากเกาะริ้น