Breathe up (เตรียมหายใจ; นาที) | Breath hold (กลั้นหายใจ; นาที) |
2.00 | 1.08 |
2.00 | 1.18 |
2.00 | 1.28 |
2.00 | 1.26 |
2.00 | 1.28 |
2.00 | 1.37 |
2.00 | 1.40 |
2.00 | 1.39 |
การฝึกซ้อมด้วย Relaxation Table
หลายๆท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ การฝึกซ้อม Table ต่างๆ ทั้ง Co2 และ O2 table ซึ่งโดยปกติแล้ว ตารางเหล่านี้ ช่วยให้เรากลั้นหายใจได้นานขึ้น สบายขึ้น ฟรีไดฟ์ได้ผ่อนคลาย และมั่นใจมากขึ้น และยังมี ตารางการซ้อมอีกแบบ ที่เน้นปริมาณมาก แต่ความเข้มข้นต่ำ (High Volume, Low intensity) ตารางนี้คือ Relaxation Table ครับ
จากชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่า ตารางนี้เน้นการผ่อนคลาย คือเราจะไม่ทนต่อ CO2 เหมือนอย่างตาราง CO2 ทั่วๆไป ให้เราเตรียมหายใจแบบสบายๆ ผ่อนคลาย 2-3 นาที เมื่อพร้อมแล้วก็ทำ Final Breath หายใจเข้าให้ลึก ช้า และ หายใจออกให้หมด หายใจเข้าให้เต็มช่องท้อง หน้าอก (ทำ 1-2 รอบ ไม่เกินนี้) จากนั้นก็กลั้นหายใจเลยครับ และเมื่อไรก็ตามที่เกิดอาการอยากหายใจ (urge to breathe) ชัดเจน ก็หายใจเลย ทำ Recovery Breath ตามปกติ และบันทึกเวลาไว้ ทำซ้ำๆแบบนี้วนไป 8 รอบ จะเห็นได้เลยว่า รอบหลังๆ จะดีขึ้นเรื่อยๆ คือ เราจะสามารถกลั้นหายใจได้แบบสบายๆ เป็นเวลานานขึ้นเรื่อยๆ อาการอยากหายใจจะมาช้าขึ้น
จากตัวอย่างตารางที่ผมลองทำเอง รอบแรกๆจะกลั้นได้แค่ นาทีต้นๆ ก่อนที่ UTB จะมา แต่รอบหลังๆ จะกลั้นได้ 1.30-1.40 นาที ลองฝึกตารางนี้ซัก 1 สัปดาห์ และลองทำ maximum breath hold ดูอีกทีว่า ดีขึ้นมั้ยนะครับ
ตอนที่ผมเพิ่งเริ่มเรียน ฟรีไดฟ์ใหม่ๆ ผมกลั้นหายใจ (Apnea) ได้แย่มากๆ คือแย่ที่สุดในห้องที่เรียนกัน 10 คนเลย วันนั้นครูสอนวิธีการหายใจแบบฟรีไดฟ์ และให้นักเรียนในห้องทุกคน ลองกลั้นหายใจ โดยเริ่มจาก 50 วินาที, 1 นาที, 1 นาที 10 วินาที เพิ่มทีละ 10 วินาที ผมเป็นคนเดียวในห้องที่ทำ 1.30 ไม่ได้ ขณะที่คนอื่นๆ รวมถึงลูกชาย 2 คน ของผม (12 และ 10 ขวบ) ที่เรียนด้วยกันทำได้สบาย ผมล่ะอายมาก
จากนั้นผมเลยพยายามมาหัด CO2 table เอง พัฒนาขึ้นนิดหน่อย กลั้นได้ 2 นาที แต่ตอนฝึกแต่ละรอบรู้สึกค่อนข้างทรมาน ต้องฝืนต้องทน กลั้นเอาไว้ จนมาตอนหลังได้ยินเกี่ยวกับ Relaxation ตอนเรียน Training Technique เลยลองมาฝึกดู รู้สึกว่าได้ผลดี และตอนฝึกก็ไม่ฝืน ไม่ทรมานด้วย Maximum Breath hold ก็ดีขึ้นด้วยครับเป็น 2.40